สุดชั่ว!! หลงรักเมียญาติ เลยวางแผนข่มขืนสาวแม่ลูกอ่อน แต่ต้องเงิบเมื่อรู้ความจริงบางอย่าง เน่าสุดๆๆ
หนุ่มก่อสร้างเมืองอุดรฯ ตั้งวงก๊งเหล้าขาวเมากลับบ้านขอร่วมหลับนอนแต่เมียไม่ยอม บอกเหม็นเหงื่อ-เหล้า รุดไปบ้านใกล้เคียง สวมโม่งบุกมัดมือข่มขืนภรรยาญาติ สารภาพทำจริง หลงรักมานาน สบโอกาสช่วงสามีไม่อยู่
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. 58 พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ร.ต.อ.อรรคพล ยี่เกาะ ร.ต.ท.บรรจง พาโคตร ร.ต.ท.วิเชียร คล้อยดี รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี จับกุม นายเอก (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ได้ที่กระท่อมกลางนา ต.บ้านขาว อ.เมืองอุดรธานี พร้อมของกลาง หมวกไหมพรมสีดำ กางเกงขาสั้น ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย ควบคุมตัวไปสอบสวน
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. ร.ต.อ.ภานุวัฒน์ ภูชื่นบาน พงส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก นางน้อย (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ชาว ต.หนองขอนกว้าง ว่า ขณะนอนหลับอยู่ในบ้านกับลูกอายุ 2 ขวบ มีคนร้ายสวมหมวกไหมพรมคลุมหน้าบุกเข้ามาข่มขืนกระทำชำเราแล้วหลบหนี ซึ่งได้กลิ่นตัวคนร้ายเหม็นคล้ายคนไม่ได้อาบน้ำผสมกับกลิ่นสุราอย่างรุนแรง หลังคนร้ายหลบหนี จึงอุ้มลูกวิ่งไปหาสามีที่นอนเฝ้าพ่อป่วยอยู่ภายในหมู่บ้าน ก่อนจะแจ้งตำรวจ
เบื้องต้น นายเอก ให้การรับสารภาพว่า ข่มขืน นางน้อย จริง โดยตนเองทำอาชีพก่อสร้าง อีกทั้งยังเป็นญาติกับสามี นางน้อย บ้านอยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร ก่อนเกิดเหตุหลังเลิกงานตั้งวงดื่มสุรา กระทั่งดึกและมีอาการมึนเมา เมื่อกลับถึงบ้านเดินเข้าห้องเพื่อจะร่วมหลับนอนกับภรรยา แต่ภรรยาไม่ยอมอ้างว่าเหม็นกลิ่นเหงื่อกลิ่นสุรา จึงเดินออกจากบ้านไปหาสามี นางน้อย เพื่อจะนำเงินไปจ่ายค่าไก่ชน แต่เมื่อส่องหน้าต่างห้องนอนพบ นางน้อย นอนอยู่กับลูก จึงเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาอีก เดินกลับบ้านสวมหมวกไหมพรมย้อนมาทางประตูหลังบ้าน ซึ่งไม่ได้ใส่กลอน หยิบผ้าขาวม้าเก่ามาฉีกเป็นเส้นเชือก บุกเข้าไปหา นางน้อย ใช้กำปั้นชกท้องน้อยและหลังหลายครั้ง ก่อนจับมัดมือไพล่หลัง และลงมือข่มขืน
นายเอก ให้การอีกว่า หลังข่มขืนเดินกลับบ้านเข้านอนปกติ และคิดว่า นางน้อย คงไม่กล้าแจ้งตำรวจ เพราะอับอาย แต่ผิดคาด นางน้อย ไปบอกสามีก่อนจะมีตำรวจมาที่เกิดเหตุ ด้วยความกลัวจึงเก็บเสื้อผ้าหนีไปอยู่กับเพื่อนที่บ้านนาม่วง จนมาถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว
พ.ต.ท.ชาญณรงค์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายเอก ทราบว่าเป็นคนมีความต้องการทางเพศสูง จะร่วมหลับนอนกับภรรยาทุกวัน แม้แต่น้องภรรยาซึ่งเคยมาอาศัยอยู่ด้วยยังคิดจะข่มขืน แต่เกรงกลัวความผิดจึงล้มเลิกความคิด ส่วนสามี นางน้อย เป็นญาติกัน แต่ไม่เคยพูดคุยตั้งแต่แต่งงานเข้ามาเป็นสะใภ้ เพราะว่าแอบชอบถึงขั้นหลงรัก นางน้อย และมักจะเดินไปพูดคุยเรื่องไก่ชนกับสามี นางน้อย ที่บ้าน พร้อมกับจะแอบชำเลืองมองประจำ กระทั่งสบโอกาสเห็นว่าสามีไม่อยู่บ้านก็บุกเข้าไปข่มขืนดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. 58 พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ร.ต.อ.อรรคพล ยี่เกาะ ร.ต.ท.บรรจง พาโคตร ร.ต.ท.วิเชียร คล้อยดี รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี จับกุม นายเอก (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ได้ที่กระท่อมกลางนา ต.บ้านขาว อ.เมืองอุดรธานี พร้อมของกลาง หมวกไหมพรมสีดำ กางเกงขาสั้น ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย ควบคุมตัวไปสอบสวน
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. ร.ต.อ.ภานุวัฒน์ ภูชื่นบาน พงส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก นางน้อย (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ชาว ต.หนองขอนกว้าง ว่า ขณะนอนหลับอยู่ในบ้านกับลูกอายุ 2 ขวบ มีคนร้ายสวมหมวกไหมพรมคลุมหน้าบุกเข้ามาข่มขืนกระทำชำเราแล้วหลบหนี ซึ่งได้กลิ่นตัวคนร้ายเหม็นคล้ายคนไม่ได้อาบน้ำผสมกับกลิ่นสุราอย่างรุนแรง หลังคนร้ายหลบหนี จึงอุ้มลูกวิ่งไปหาสามีที่นอนเฝ้าพ่อป่วยอยู่ภายในหมู่บ้าน ก่อนจะแจ้งตำรวจ
เบื้องต้น นายเอก ให้การรับสารภาพว่า ข่มขืน นางน้อย จริง โดยตนเองทำอาชีพก่อสร้าง อีกทั้งยังเป็นญาติกับสามี นางน้อย บ้านอยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร ก่อนเกิดเหตุหลังเลิกงานตั้งวงดื่มสุรา กระทั่งดึกและมีอาการมึนเมา เมื่อกลับถึงบ้านเดินเข้าห้องเพื่อจะร่วมหลับนอนกับภรรยา แต่ภรรยาไม่ยอมอ้างว่าเหม็นกลิ่นเหงื่อกลิ่นสุรา จึงเดินออกจากบ้านไปหาสามี นางน้อย เพื่อจะนำเงินไปจ่ายค่าไก่ชน แต่เมื่อส่องหน้าต่างห้องนอนพบ นางน้อย นอนอยู่กับลูก จึงเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาอีก เดินกลับบ้านสวมหมวกไหมพรมย้อนมาทางประตูหลังบ้าน ซึ่งไม่ได้ใส่กลอน หยิบผ้าขาวม้าเก่ามาฉีกเป็นเส้นเชือก บุกเข้าไปหา นางน้อย ใช้กำปั้นชกท้องน้อยและหลังหลายครั้ง ก่อนจับมัดมือไพล่หลัง และลงมือข่มขืน
นายเอก ให้การอีกว่า หลังข่มขืนเดินกลับบ้านเข้านอนปกติ และคิดว่า นางน้อย คงไม่กล้าแจ้งตำรวจ เพราะอับอาย แต่ผิดคาด นางน้อย ไปบอกสามีก่อนจะมีตำรวจมาที่เกิดเหตุ ด้วยความกลัวจึงเก็บเสื้อผ้าหนีไปอยู่กับเพื่อนที่บ้านนาม่วง จนมาถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว
พ.ต.ท.ชาญณรงค์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายเอก ทราบว่าเป็นคนมีความต้องการทางเพศสูง จะร่วมหลับนอนกับภรรยาทุกวัน แม้แต่น้องภรรยาซึ่งเคยมาอาศัยอยู่ด้วยยังคิดจะข่มขืน แต่เกรงกลัวความผิดจึงล้มเลิกความคิด ส่วนสามี นางน้อย เป็นญาติกัน แต่ไม่เคยพูดคุยตั้งแต่แต่งงานเข้ามาเป็นสะใภ้ เพราะว่าแอบชอบถึงขั้นหลงรัก นางน้อย และมักจะเดินไปพูดคุยเรื่องไก่ชนกับสามี นางน้อย ที่บ้าน พร้อมกับจะแอบชำเลืองมองประจำ กระทั่งสบโอกาสเห็นว่าสามีไม่อยู่บ้านก็บุกเข้าไปข่มขืนดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.